การเคลือบผิวอลูมิเนียมคอมโพสิตดีเยี่ยมเนื่องจากใช้สารเคลือบผิวคุณภาพดี เคลือบผิวด้วยกระบวนการเคลือบผิวอัตโนมัติ ทำให้ผิวเรียบและยึดเกาะกับอลูมิเนียมได้ดี สามารถทนบรรยากาศที่เป็นกรดและด่าง สีติดแน่น ไม่หลุดล่อน แผ่นอลูมิเนียมคอมโพสิท ที่เคลือบผิวด้วยสาร PVDF สามารถใช้งานติดตั้งภายนอกได้นานกว่า 20 ปี และบำรุงรักษาได้ง่ายมีกำลังยึดเกาะสูงอลูมิเนียมคอมโพสิทเนื่องจากใช้ ฟิล์มเหนียว คุณภาพดี อลูมิเนียม ยึดเกาะกับแผ่นแกนโพลีเอททิลีน ได้แน่น ไม่หลุดล่อน อลูมิเนียมคอมโพสิทดีเยี่ยมทนอุณหภูมิสูงอุณหภูมิที่ทำให้ แผ่นอลูมิเนียมคอมโพสิต เสียรูป เกินกว่า 105ºC สามารถใช้งานได้ดีในบรรยากาศที่ช่วงอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงกว้าง อลูมิเนียมคอมโพสิทดีเยี่ยมน้ำหนักเบาเป็นพิเศษแผ่นอลูมิเนียมคอมโพสิท ที่เคลือบผิวด้วย PVDF มีน้ำหนักเพียง 5.25 กิโลกรัม ต่อ ตารางเมตร เมื่อเทียบกับวัสดุอื่นที่มีความแข็งแรงเท่ากันแล้ว แผ่นอลูมิเนียมคอมโพสิต เบากว่ามาก

อลูมิเนียมคอมโพสิตดีเยี่ยมเก็บเสียงเป็นฉนวนความร้อน และทนแรงกระแทกแผ่นอลูมิเนียมคอมโพสิต มีข้อได้เปรียบทั้งของโลหะ และพลาสติก สามารถทนแรงกระแทกมากกว่าแผ่นอลูมิเนียมธรรมดาถึง 6 เท่า เป็นวัสดุที่เหมาะสำหรับใช้ตกแต่งในห้องเก็บเสียง กันความร้อน และมีการกระทบกระแทกอลูมิเนียมคอมโพสิทดีเยี่ยมปลอดภัยจากสารพิษและไม่ติดไฟเนื่องจาก แผ่นอลูมิเนียมคอมโพสิต ไหม้ไฟแล้วไม่มีสารพิษ ส่วนอลูมิเนียม ไม่ติดไฟ จึงสามารถใช้งานในสถานที่ที่มีข้อกำหนดเรื่องการทนไฟได้อลูมิเนียมคอมโพสิทดีเยี่ยมมีหลายสี สามารถเลือกสีให้เหมาะกับงานได้ อลูมิเนียมคอมโพสิตดีเยี่ยมทำงานง่ายสามารถทำงานด้วยเครื่องมืองานไม้ และงานโลหะ ได้อย่างเที่ยงตรง เช่น การตัด การเลื่อย การเซาะร่อง การปั้มพ์ การอัดและการดัดโค้ง http://www.bfm.co.th/th/alpolic.php

จุดเริ่มต้นของชุดชั้นในที่เป็นต้นกำเนิดให้เราใช้กันในปัจจุบันนี้เริ่มต้นมาจากผู้หญิงคนหนึ่งที่ชื่อ Mary Phelps Jacob ( แมรี่ เฟลพ์ จาคอบ ) ซึ่งการออกแบบบราเซียร์ ของเธอในยุคนั้น เกิดมาจากการที่เธอต้องสวมใส่เสื้อคลุมตัวยาวๆ เพื่อที่จะต้องไปออกงานสังคมที่เป็นสังคมชั้นสูงแต่ชุดชั้นในหรือบราในยุคตอนนั้นยังไม่มีนะคะจะมีก็เป็นเพียงแค่ชุดคอร์เซตซึ่งในยุคนั้นตัวชุดทำมาจากกระดูกของปลาวาฬซึ่งพอเธอสวมใส่แล้วเจ้าโครงที่เป็นกระดูกของปลาวาฬนี่ก็โผล่ออกมาจากเสื้อคลุมของเธอวิธีแก้ปัญหาตอนนั้นของเธอ เธอก็เลยใช้ริบบิ้นสีชมพูนำมาทำเป็นสายพาดไปกับไหล่แล้วนำมาผูกเข้าด้วยกันกับผ้าเช็ดหน้าเสร็จแล้วก็ใช้ประคองกับหน้าอกของเธอ แทนชุด คอร์เซตกระดูกปลาวาฬแบบเก่าที่เธอใส่

ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าริ้บบิ้นที่เธอเอามาผูกกับผ้าเช็ดหน้าจะทำให้เธอดูโดดเด่นและเป็นที่ชื่นชมของผู้คนในงานสังคมที่เธอไปร่วมงานจุดเริ่มต้นก็มาจากตรงนี้เองค่ะ ซึ่งหลังจากนั้นต่อมาไม่นานบราหรือชุดชั้นในที่ Mary Phelps Jacob ทำมาจากผ้าเช็ดหน้าและสายริบบิ้นก็กลายเป็นที่ยอมรับและกล่าวขานในวงการแฟชั่นในยุคนั้นแมรี่เองเรียกเสื้อชั้นในที่เธอเป็นผู้ค้นคิดขึ้นมาว่าบราเซียร์ซึ่งมาจากภาษาฝรั่งเศสและแมรี่ก็ได้มีการจดลิขสิทธิ์ของชุดชั้นในเป็นครั้งแรกในวันที่ 3 พฤศจิกายน ค.ศ.1914 หรือ วันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ.2457 ซึ่งต่อมามีการพัฒนาการมาเรื่อยๆ จนกระทั่งสู่ยุคปัจจุบันในวงการแฟชั่นจึงได้ยกย่อง Mary Phelps Jacob ว่าเป็นผู้คิดค้นและออกแบบชุดชั้นในคนแรกของโลก ซึ่งถ้าจะบอกว่าต้นกำเนิดของชุดชั้นในตัวแรกของโลกมาจากความไม่พอใจของ Mary Phelps Jacob  เองก็คงไม่เกินเลยไปนักค่ะสำหรับผู้หญิงเรายังไงก็ต้องสวยไว้ก่อนจริงมั้ยค่ะ